ทางสายกลางของอริสโตเติล ความเหมือนและความแตกต่างในมัชฌิมาของ - ทางสายกลางของอริสโตเติล ความเหมือนและความแตกต่างในมัชฌิมาของ นิยาย ทางสายกลางของอริสโตเติล ความเหมือนและความแตกต่างในมัชฌิมาของ : Dek-D.com - Writer

    ทางสายกลางของอริสโตเติล ความเหมือนและความแตกต่างในมัชฌิมาของ

    ทางสายกลางของอริสโตเติล ความเหมือนและความแตกต่างในมัชฌิมาของพระพุทธเจ้า

    ผู้เข้าชมรวม

    4,146

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    14

    ผู้เข้าชมรวม


    4.14K

    ความคิดเห็น


    0

    คนติดตาม


    0
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  25 ก.ค. 52 / 01:09 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ



                  เมื่อเราพูดถึงทางสายกลางเราคงจะนึกถึงหลักคำสอนของพระพุทธศาสนา มีน้อยคนจะทราบว่าคำสอนเรื่องทางสายกลางนี้มีอยู่ในปรัชญาด้วย  อริสโตเติล คือนักปรัชญาที่ได้กล่าวถึงทางสายกลางในปรัชญาที่ว่าด้วยเรื่องคุณธรรมของเขา  ในทัศนะเรื่องคุณธรรมของอริสโตเติล เขาได้แบ่งคุณธรรมออกเป็น
      2 ประเภท คือ

      1.             คุณธรรมด้านพุทธิปัญญา  หมายถึงความสามารถในการใช้เหตุผลเพื่อแสวงหาความรู้เกี่ยวกับสิ่งสากลและเพื่อการคำนวณในวิชาคณิตศาสตร์

      2.             คุณธรรมด้านศีลธรรม  หมายถึงความสามารถในการเลือกทำความดีซึ่งเกิดจากการฝึกปฏิบัติจนเป็นนิสัย1  
         
      1  พระราชวรมุนี (ประยูร  ธมฺมจิตฺโต),ปรัชญากรีก : บ่อเกิดปรัชญาตะวันตก, กรุงเทพฯ : ศยาม, 2544

      ทางสายกลางของอริสโตเติลถือว่าจัดอยู่ในคุณธรรมด้านศีลธรรม  เพราะทางสายกลางเกิดขึ้นจากการปฏิบัติจนเป็นนิสัย   อริสโตเติลได้นิยามความหมายของทางสายกลางไว้ว่า เป็นหลักคุณธรรมความดีที่เป็นกลาง อยู่ระหว่างความสุดโต่ง คือความเกินพอดี และขาดความพอดีหรือหย่อนยาน

                  องค์ประกอบของของทางสายกลาง ซึ่งอริสโตเติลได้ให้องค์ประกอบของทางสายกลางไว้ 5 ประการคือ

      1.      เวลาที่เหมาะสม หมายถึง โอกาสในการแสดงพฤติกรรม มาว่าจะเป็นทางกาย วาจา  หรือใจ

      2.      จุดหมายดี  หมายถึงเป้าหมายที่จะต้องไปให้ถึง ซึ่งแบ่งออกเป็น 2 ประเภท

      คือ  จุดหมายระหว่างทาง  และจุดหมายปลายทาง  จุดหมายระหว่างทางคือจุดหมายเฉพาะหน้าที่เราต้องการเพื่อผ่านไปสู่จุดหมายสูงสุด เช่น เราไปเลือกตั้งเพราะเราต้องการ สส. จุดหมายสูงสุดก็คือเราจะเอา สส.ไปทำงานบริหารประเทศนั่นเอง

       




        ส่วนจุดหมายปลายทางก็คือ จุดหมายที่มีจุดจบในตัวของมันเอง เช่น จุดหมายสูงสุดของการปฏิบัติธรรมคือการได้มาซึ่งพระนิพพาน เป็นต้น

      3.      คนดี  หมายถึง ผู้ที่ปฏิบัติชอบในทางทั้งสาม คือ กาย  วาจา  และใจ

      4.      แจงจูงใจ  หมายถึงแรงปรารถนาซึ่งเป็นพลังอย่างหนึ่งที่ผลักดันให้คนเรา

      กระทำความดีและความชั่ว แรงจูงใจของอลิสโตเติลนั้นยังรวมถึง  ความปรารถนา  การเลือก  จุดประสงค์ ความกระหาย  และความต้องการ

                  5.  วิธีถูกต้อง หมายถึง แนวทางปฏิบัติที่เป็นที่ยอมรับ และเป็นไปตามขั้นตอนที่เป็นระเบียบ

                  ตามทัศนะของอลิสโตเติล เขาได้กล่าวว่าทางสายกลางนั้นไม่สามารถมีเกณฑ์ที่มาตรฐานมาวัดทางสายกลางของทุกๆคนได้แต่ทางสายกลางจะขึ้นอยู่กับเวลาและสถานที่ตามภาวะแวดล้อม และยังถูกกำหนดด้วยหลักเหตุผลอันเป็นหลักที่บุคคลผู้มีปัญญาภาคปฏิบัติกำหนดขึ้น  เราจึงสรุปได้ว่า ไม่มีทางสายกลางที่จะแน่นอนและตายตัวที่ใช้ได้กับทุกคน ทางสายกลางของแต่ละคนก็ต้องขึ้นอยู่กับการกำหนดของบุคคลคนนั้น  แต่ถึงอย่างไรการกำหนดทางสายกลางก็ต้องเป็นไปตามหลักเหตุผล ไม่ใช่ความรู้สึก นั่นคือต้องวัดจากสถานการณ์และบุคคลที่เข้ามาเกี่ยวข้อง  ส่วนหลักเหตุผลดังกล่าวนั้นต้องอาศัยประสบการณ์เข้ามาเป็นเครื่องช่วยตัดสินใจ

                  ความสำคัญของทางสายกลาง  ทางสายกลางนั้นมีความสำคัญต่อชีวิตมาก ที่ว่าสำคัญก็เพราะว่าทางสายกลางของอลิสโตเติลนั้น เป็นทางแห่งความดี  คนเราทุกคนล้วนมีอารมณ์ความรู้สึกที่ดีและไม่ดีแตกต่างกันออกไป แต่นอกจากจะมีอารมณ์แล้วคนเรายังมีเหตุผลที่จะคอยช่วยดูแลและควบคุมให้สามารถตัดสินใจหรือเลือกกระทำการได้อย่างถูกต้อง   อย่างที่สองคือ เป็นหลักตัดสินพฤติกรรม  หลักทางสายกลางถือเป็นหลักการตัดสินการกระทำต่างๆของคนเราและเป็นหลักที่จะนำมาสร้างความสุขให้แก่ชีวิตเราได้  ผลของการกระทำนั้นไม่ว่าจะออกมาดีหรือว่าออกมาร้าย สิ่งที่ควรเราทุกคนควรที่จะมีก็คือความรับผิดชอบในการกระทำของตัวเราเอง   ประการสุดท้ายก็คือเป็นทางแห่งความสุข  หลักทางสายกลางเป็นหลักที่เกี่ยวกับการกระทำต่างๆ  การที่คนเรารู้จักพอดีจะมุ่งไปสู้ความมีสุขของชีวิต   ถึงแม้ว่าทางสายกลางของอลิสโตเติลกับทางสายกลางของพระพุทธเจ้าจะมีชื่อเรียกที่เหมือนกัน แต่ทางสายกลางสองอันนี้ยังมีความเหมือนและความแตกต่างที่เราจะได้มาพูดถึงต่อไปนี้

                  ข้อเปรียบเทียบทางสายกลางของอลิสโตเติลและของพระพุทธเจ้า   พระพุทธเจ้าได้ตรัสเรื่องทางสายกลางไว้โดยในคัมภีร์ทางพระพุทธศาสนาเราจะเรียกว่ามัชฌิมาปฏิปทา   ในประเด็นที่เหมือนกันระหว่างทางสายกลางของอริสโตเติลและของพระพุทธเจ้าคือ ทั้งสองนี้มีคำสอนที่ให้งดเว้นการปฏิบัติที่ตึงเกินไปและหย่อนยานเกินไป สอนให้รู้จักความพอดี ซึ่งความพอดีนั้นจะแบ่งได้เป็นสามประการ ก็คือ

                  1.ความพอดีภายนอก คือการมีวัตถุสิ่งของที่พอสำหรับความต้องการในชีวิตประจำวัน

                  2.ความพอดีทางจิตใจ  คือความมีจิตใจที่ดีงาม คิดดี มีเหตุผล คุณธรรมและจริยธรรม

                  3.ความพอดีทางร่างกาย  คือการมีสุขภาพที่สมบูรณ์ แข็งแรงไม่มีโรคภัย

      อีกประเด็นหนึ่งที่เหมือนกันก็คือการเน้นที่เจตนาเหมือนกัน  อริสโตเติล กล่าวว่า เมื่อคนเรามีเจตนาที่ดีแล้วการกระทำก็จะดีตามเจตนา ส่วนพระพุทธเจ้าก็ตรัสไว้ว่า เมื่อคนเรานั้นมีเจตนาที่ดีแล้ว เขาก็จะกระทำแต่กรรมที่เป็นกุศล แต่ถ้าเขามีเจตนาร้าย เขาก็จะกระทำกรรมชั่ว

                  ส่วนประเด็นที่แตกต่างกันก็คือ องค์ประกอบนั้นต่างกัน อริสโตเติลนั้นได้จักองค์ประกอบของทางสายกลางไว้ 5 ประการดั่งที่ได้กล่าวไว้ข้างต้นแล้ว ส่วนพระพุทธเจ้าทรงได้จัดองค์ประกอบไว้ทั้งหมด 8 ประการ ที่เรียกกันว่า มรรค 8 หรือมรรคมีองค์8  อันได้แก่ ความเห็นชอบ  ความดำริชอบหรือคิดชอบ  ความเจรจาชอบ  การงานชอบ  การประกอบอาชีพสุจริต  ความเพียรพยายาม การละลึกชอบ และการใจมั่นชอบ 

                  ทางสายกลางของอริสโตเติลไม่มีมาตรฐานใดๆที่จะมาวัดให้ตายตัวได้ คนแต่ละคนที่จะกำหนดทางสายกลางของตัวเองได้ การกำหนดนั้นอาศัยเหตุผลเป็นตัวควบคุม

      แต่ในทางพระพุทธศาสนา ทางสายกลางไม่ได้ถูกกำหนดด้วยเหตุผลหรือความพอใจของแต่ละคน ทางสายกลางมีกฎเกณฑ์ที่แน่นอน ตายตัว  จะเห็นได้จากการที่พระพุทธเจ้านั้นได้สอนเรื่องอริยสัจ 4 คือทุกข์  สมุทัย  นิโรธ  และมรรค์  โดยวางเป้าหมายคือนิโรธ  ไว้ก่อนมรรคอันเป็นทางสายกลาง

                  ถึงแม้ว่าจะมีบางข้อของทางสายกลางของอริสโตเติลและของพระพุทธเจ้าที่ไม่เหมือนกัน แต่โดยรวมแล้วทั้งสองนี้จะมีจุดหมายที่คล้ายๆกันคือต้องการให้คนทุกคนเป็นคนดี มีคุณธรรม เพื่อที่จะเป็นประโยชน์ต่อตนเองและสังคมต่อไป

      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×